ข้อกำหนดข้อ 8.4.3 มักสร้างความสับสนให้กับผู้ที่ต้องการประยุกต์ใ้ช้ระบบ ISO 22000 อยู่เสมอ
1. ข้อกำหนดข้อนี้ ระบุให้เป็นหน้าที่ของ ทีมงานความปลอดภัยในอาหาร ทำ การวิเคราห์ ซึ่งเป็นการบอกกลายๆว่า สิ่งที่ให้ทำการวิเคราะห์น่าจะเป็นงานเทคนิค ที่เกี่ยวพันกับความปลอดภัยในอาหาร ในรายละเ้อียด
2. ความหมายของคำ
การทำการประเมิน (Evaluation) ไม่เหมือนการทำการวิเคราะห์ ( Analysis)
คำว่า การประเมิน ( Evaluation ) คือการทำการสรุปความคิดเห็น หลังจากที่ได้คิดอย่างรอบคอบ ซึ่งผลของการสรุปความเห็นอาจเป็น ผ่าน ไม่ผ่าน ผ่านมาก ผ่านน้อย เกือบๆ หรือ ผ่านฉลุย แต่ คำว่า การวิเคราะห์ มีความหมายที่แตกต่าง
อะไรคือการวิเคราะห์
ความหมายที่ 1 : ทำการศึกษา/พินิจพิเคราะห์โดยละเอียด เพื่อให้เข้าใจมากขึ้น
ความหมายที่ 2 : ทำการศึกษา/พินิจพิเคราะห์โดยละเอียด เพื่อหาองค์ประกอบ หาเหตุผล ว่าอะไรเป็นตัวแปร ( Variables) อะไรเป็นองค์ประกอบ (factor) ที่ทำให้เกิดสิ่งนั้น เกิดแนวโน้มนั้นๆ เกิดผลนั้นๆ
ดังนั้นการวิเคราะห์ คือการศึกษาข้อมูล ดูจากข้อมูล ที่ได้จากแผนการทวนสอบที่กำหนดตามข้อ “ 7.8 แผนการทวนสอบ” ว่าผลการประเมินเป็นอย่างไร ตามข้อกำหนด “8.4.2 การประเมิน แต่ละผลของการทวนสอบ” ซึ่งผลที่ได้จากการประเมินตามข้อ 8.4.2 คือ ผ่าน ไม่ผ่าน ดีมาก ดี ไม่ดี แนวโน้มดีขึ้น แนวโน้มแย่ลง เกือบๆดี เกือบๆมีปัญหา ….…
3. การวิเคราะห์ตามข้อกำหนด 8.4.3 เป็นการมองภาพรวมทั้งหมด เป็นการทวนสอบภาพรวมของระบบ FSMS เป็นการทบทวนเป็นการย้อนกลับมามอง อย่างพินิจพิเคราะห์ซ้ำจากประสิทธิผลของระบบที่ผ่านมา เพราะหากผลการทวนสอบออกมาไม่ดี ก็แปลว่าระบบ FSMS น่าจะมีปัญหา ด้วยเหตุผลนี้ จึงควรต้องกำหนดรอบเวลาที่จะทำการวิเคราะห์ผลนี้
4. ต้องวิเคราะห์อะไรบ้าง
มีอยู่ 5 เรื่อง ซึ่งต้องสรุปผลให้ได้ หมายถึงมาตรฐาน ISO22000 ให้ทำทำการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อตอบ 5 ประเด็น โดยใช้ผลที่ได้จากการประเมินจาก 7.8 (ซึ่งมีอยู่ ข้อมูล 5 ประเภท เข่นกัน)
1. วิเคราะห์ ภาพรวมสมรรถนะของระบบว่า
- เป็นไปตามแผนที่กำหนด หรือไม่
- เป็นไปตามข้อกำหนดของระบบการจัดการความปลอดภัยในอาหาร ที่จัดทำโดยองค์กร หรือไม่
2. วิเคราะห์เพื่อระบุความจำเป็นในการทำให้ทันสมัย หรือ ปรับปรุงระบบการจัดการความปลอดภัยในอาหาร
3. วิเคราะห์เพื่อระบุแนวโน้มที่ชี้ให้เห็นถึงอุบัติการณ์ที่สูงขึ้น ของผลิตภัณฑ์ที่มีโอกาสไม่ปลอดภัย
4. วิเคราะห์เพื่อจัดทำข้อมูลสำหรับการวางแผนโปรแกรมการตรวจติดตามภายใน ที่เกี่ยวข้องกับสถานะและความสำคัญของพื้นที่ที่ถูกตรวจประเมิน
5. วิเคราะห์เพื่อจัดให้มีหลักฐานว่าการแก้ไข และการปฏิบัติการแก้ไข ได้มีการกระทำอย่างมีประสิทธิผล
5. ต้องเป็นสถิติหรือไม่
เนื่องจากข้อกำหนดให้เราทำการวิเคราะห์ ซึ่งหมายถึงให้เรา “ ศึกษา/พินิจพิเคราะห์โดยละเอียด” ไม่ได้ให้เราทำสถิติ
ท่านต้องทำการศึกษาข้อมูล และ ต้องพินิืจพิเคราะห์ข้อมูลที่ได้จากผลของการทวนสอบโดยละเอียด ซึ่ง มีวิธีทำการสรุปข้อมูลได้หลายวิธี มาตรฐานไม่ได้สั่งให้เราใช้สถิติ เพียงแต่ท่านต้องสรุปโดยใช้ข้อมูล ท่านต้องสรุปข้อมูลให้ง่ายต่อการศึกษา ง่ายต่อการดู ง่ายต่อความเข้าใจ หากท่านเป็นองค์กรขนาดเล็ก หรือเป็นองค์กรที่กระบวนการผลิตไม่ซับซ้อน การใช้สถิติอาจเป็นสิ่งสุดท้ายที่ท่านควรทำ
ประเด็นคือท่านต้องทำการสรุปผลการวิเคราะห์ โดยมีข้อมูลสนับสนุน บางครั้งอาจเป็นตัวเลข บางครั้งไม่จำเป็น ในเรื่องการใช้สถิตินี้ ที่ใกล้เคียงในการใช้สถิติ คือ เรื่อง “วิเคราะห์เพื่อระบุแนวโน้มที่ชี้ให้เห็นถึงอุบัติการณ์ที่สูงขึ้น ของผลิตภัณฑ์ที่มีโอกาสไม่ปลอดภัย” เพราะเมื่อต้องการศึกษา แนวโน้ม แปลว่าท่านอาจต้องใช้ กราฟ ในการแสดงให้เห็นแนวโน้มในช่วงเวลาที่ศึกษา อื่นๆอาจเพียงแค่อ่านรายงาน ดูผลสรุป ซึ่งแล้วแต่ท่านจะสรุปข้อมูลกันอย่างไร
6. อะไรคือ แนวทางการ ปฏิบัติตามข้อกำหนดนี้ได้ดีที่สุด
แนะนำให้กระทำโดยการประชุมทบทวน เป็นการประชุมทบทวนโดย ทีมความปลอดภัยด้านอาหาร และต้องมีการนำผลที่ได้จากการทวนสอบ มาศึกษาวิเคราะห์โดยละเอียด
การประชุมนี้ต้องทำก่อนการทบทวนฝ่ายบริหาร หากท่านใช้การประชุมเพื่อการทบทวนระบบบริหารมากก่อน ( เฉกเช่น ISO9001) ท่านจะเห็นได้ว่า การประชุมทบทวนผลนี้เหมือนการประชุมย่อยๆ จากทีมความปลอดภัยด้านอาหาร เพื่อการกลั่นกรอง เพื่อสรุปผล สรุปข้อมูล โดยละเอียด ! ย้ำในรายละเอียด ก่อนส่งข้อมูลนี้ต่อให้ผู้บริหารเพื่อทำการทบทวน รับทราบ ตัดสินใจ ต่อๆไป รวมถึงการนำข้อมูลนี้ไปปรับปรุงระบบ FSMS
ความถี่ในการประชุม อย่างน้อยต้องปีละครั้ง (ซึ่งควรมีความถี่ที่มากกว่านี้) ซึ่งแล้วแต่ความเสถียรของระบบ FSMS ของท่าน แล้วแต่รอบเวลาการทบทวนอื่นๆเช่นการทบทวนฝ่ายบริหาร
ต้องไม่ลืมว่า หลังการศึกษา/พินิจพิเคราะห์ข้อมูลโดยละเอียดแล้ว ท่านต้องทำบันทึก ผลสรุปพร้อมหลักฐานยืนยัน ให้ครบถ้วนทั้ง 5 ประเด็นข้างต้น ( 8.4.3 a to e)